MACD หลายคนอาจจะเรียกว่า แม็ค-ดี หรือบางคนก็อาจจะเรียกว่า เอ็ม-เอ-ซี-ดี ตรงๆตัวเลย ซึ่งมีชื่อย่อมาจากคำว่า (Moving Average Convergence Divergence) โดยผู้คิดค้น MACD ขึ้นมาคือ Gerald Appel ในช่วงปี 1970 ประยุกต์มาจากเส้น Moving Average 2 เส้นพร้อมๆกันโดยมีค่าของเส้น Moving Average ที่แตกต่างกัน
ซึ่ง MACD คืออินดิเคเตอร์ (Indicator) ตัวหนึ่งที่อยู่ในหมวดของ Oscillators อินดิเคเตอร์ที่วัดการแกว่งตัวของกราฟราคาหรือใช้กับตลาดที่อยู่ในสภาวะตลาดที่เคลื่อนที่ไปด้านข้างหรือ Sideway แต่เทรดเดอร์ในตลาด Forex ส่วนใหญ่นิยมใช้ MACD ในสภาวะตลาดที่เป็นเทรนด์ Trend
ส่วนประกอบของ MACD
1. MACD Histogram (แท่งสีขาว)
2. Signal Line (เส้นประสีแดง)
3. Moving Average (เส้นสีเขียว)
การตั้งค่า MACD
1. เข้ามาที่แท็บเมนูบน Insert > Indicators > Oscillators > MACD
หลังจากนั้นจะมี หน้าต่างเด้งขึ้นมาเพื่อให้ปรับค่า MACD หลังจากนั้นให้ปรับค่าเป็น Fast EMA: 15, Slow EMA: 35 และ MACD SMA: 9
2.ลาก Moving Average ไปที่ MACD
ให้เทรดเดอร์ปรับค่า Period: 3 และเปลี่ยน MA method: Simple เป็น MA method: Exponential และ Apply to: Close เป็น Apply to: First Indicator’s Data หากเส้น MACD เดิมนั้นมีสีแดงอยู่แล้ว อาจจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวหน่อย เพื่อให้ดูง่ายมากยิ่งขึ้นตามภาพ
MACD ของคุณก็จะสมบูรณ์แล้ว มีลักษณะหน้าตาแบบนี้
การทำกำไรของ MACD
1. ซื้อขายเมื่อแท่ง MACD Histogram ตัดเส้น 0.00
- หาก MACD Histogram อยู่บนน้ำให้ Buy
- หาก MACD Histogram อยู่ใต้น้ำให้ Sell
2. ซื้อขายเมื่อเส้น Signal Line (เส้นประสีแดง) และ Moving Average (เส้นสีเขียว) ตัดกัน
- หาก Signal Line (เส้นประสีแดง) ตัด Moving Average (เส้นสีเขียว) ลงมาให้ Buy
- หาก Signal Line (เส้นประสีแดง) ตัด Moving Average (เส้นสีเขียว) ขึ้นไปให้ Sell
3. ซื้อขายเมื่อเกิด Divergence
- หากมี Divergence เกิดขึ้นสามารถเปิดออร์เดอร์ได้ทันที โดยไม่ต้องรอสัญญาณอื่นๆ
- หากเกิด Divergence ขาขึ้น ให้ทำการ Buy
- หากเกิด Divergence ขาลง ให้ทำการ Sell